ปี พ.ศ. 2525 ... เริ่มต้นจากเถ้าแก่และช่างทองเพียง 3-4 คน ย่านตลาดพลู
ด้วยฝีมือช่างที่ปราณีต ความรวดเร็วในการบริการ ความซื่อตรงที่มีต่อลูกค้า... วันสู่เดือน เดือนสู่ปี
บ้านรับเลี่ยมกรอบพระของเราก็ได้รับความไว้วางใจจากห้างทองต่าง ๆ มากขึ้น ชื่อเสียงเริ่มแผ่ขยายไป
กิจการขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ มีการว่าจ้างช่างทองแขนงต่าง ทั้งช่างเลี่ยม ช่างสร้อย ช่างแหวน ฯลฯ
อีกทั้งยังเสมือนเป็นโรงเรียนฝึกวิชาชีพช่างทองกลาย ๆ อีกด้วย กล่าวคือ เราได้ฝึก และสอน
วิชาช่างเลี่ยมให้กับคนรุ่นใหม่ที่สนใจ เมื่อเป็นงานแล้ว ก็ได้ว่าจ้าง ป้อนงานให้ช่างทองรายใหม่ทำต่อไปอีก
ถึงวันนี้เมื่อลองคำนวณคร่าว ๆ ถึงจำนวนช่างทองฝีมือเอก ที่เรากล่าวได้ว่า "ปั้นมากับมือ" นั้น
จำนวนเหยียดร้อยคนก็ว่าได้ (ซึ่งปัจจุบัน ช่างเหล่านั้นก็ได้รับการสนับสนุนและผลักดันให้เป็นเถ้าแก่
มีกิจการของตนเองอีกนับสิบราย)
กิจการรับจ้างเลี่ยมกรอบพระเจริญก้าวหน้าและขยายขนาดเพิ่มขึ้นเรื่อย
จนบ้านที่ตลาดพลูนั้นเล็กเกินไปเสียแล้ว...
ปี พ.ศ.2529 เราจึงย้ายโรงงานมาอยู่ที่ย่านท่าพระ
ซึ่งมีเนื่อที่กว้างขวางกว่าเดิมมาก เราเป็นโรงงานทำทองครบวงจร
มีทั้งที่พัก และสวัสดิการทุกอย่างให้แก่ช่างทองอย่างครบถ้วน
โดยใช้หลักการทำงานและอยู่ร่วมกันเสมือนเครือญาติ เสมือนพี่น้อง
ยุคที่งานทำทองเฟื่องฟูที่สุด เห็นจะเป็นช่วง 2531 - 2533
ขณะนั้น เราได้รับว่าจ้างทำทองให้แก่ร้านทองหลายสิบเจ้า ทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด
มีช่างทองอยู่ในความดูแลไม่น้อยกว่า 30 ราย
ทว่า... ในช่วงที่ประเทศไทยเกิดวิกฤติ ภาวะฟองสบู่แตก เศรษฐกิจเริ่มฝืดเคือง
ลูกค้าเริ่มสั่งงานทองน้อยลง ยังผลให้งานว่าจ้างทำทองน้อยลงตามไปด้วย
กิจการของเราจึงได้ปรับตัวให้เข้ากับภาวะเศรษฐกิจ
โดยใช้วิธีลดขนาดกิจการลง เพื่อลดภาระทางด้านต่าง ๆ
สิ่งที่เราเลือก ไม่ใช่วิธีปลดช่างทองออก ทว่าเรากลับส่งเสริมให้ช่างที่มีฝีมือ มีทุนรอน
และมีความสามารถในการบริหารงาน ออกไปเป็นเถ้าแก่ มีกิจการเป็นของตัวเอง โดยที่เราป้อนงานให้เรื่อย ๆ
ซึ่งวิธีนี้ ทำให้เรารับแบกรับภาระต่าง ๆ น้อยลง
แต่ก็ยังเป็นการรักษาสภาวะการมีงาน และการว่าจ้างช่างทอง ให้ทุกคนสามารถเลี้ยงชีพตนเองต่อไปได้
หลังจากปี 2543 บ้านทำทองของเรามีช่างทองในความดูแลอยู 6 ราย
งานจากห้างทองต่าง ๆ ก็มีสั่งว่าจ้างเข้ามาเรื่อย ๆ เพียงพอต่อการเลี้ยงชีพในภาวะเศรษฐกิจยุคนั้น
...สถานการณ์ทดสอบเราอีกครั้ง เมื่อไม่กี่ปีมานี้ วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ที่เกิดขึ้น...
ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจดิ่งลงเรื่อย ๆ ทั่วโลก โรงงานเราเองก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้ไม่น้อย
กล่าวคือ เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฝืดเคือง เงินตราหายาก ทว่าราคาทองคำกลับพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ
เครื่องประดับ รวมทั้งงานเลี่ยมพระทองคำ ซึ่งไม่ได้ถูกจัดเป็นปัจจัยจำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีพ
ก็มียอดสั่งซื้อลดลงอย่างรวดเร็ว
งานว่าจ้างที่น้อยลงจนงานที่ได้รับป้อนให้ช่างทองไม่พอ ถึงขั้นต้องสลับกันกันทำงานวันเว้นวันเลยทีเดียว
...แต่ก็อย่างที่โบราณว่าไว้... เมื่อประตูบานหนึ่งปิดลง ก็จะมีประตูบานอื่นเปิดแง้มให้เสมอ...
กล่าวคือ เมื่อต้นปี 2552 เมื่อ "น้อง" พิมพ์มณี เนาวพรพรรณ ลูกสาวคนโตของเจ๊แมว
ได้ตอบรับการชักชวนจากเพื่อนรัก ให้เข้าเรียนคอร์สสำหรับผู้ประกอบการใหม่ (NEC) ที่ ม.บูรพา
ซึ่งหลักสูตรนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาล กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค 9 และ ม.บูรพา
เพื่อเสริมสร้างผู้ประกอบการใหม่ทุกราย ไม่ว่าจะเป็น ผู้ที่ทำงานประจำ ผู้ว่างงาน เจ้าของกิจการ
หรือแม้แต่ทายาทธุรกิจ (ซึ่ง คุณน้องเองก็ได้รับคัดเลือกเข้าหลักสูตรสืบเนื่องจากคุณสมบัติข้อนี้)
เพื่อส่งเสริมธุรกิจขนาดเล็ก (SME) อันเป็นกลุ่มที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยกว่า 90%
ให้สามารถประคองตัวต่อไปได้ รวมถึงเปิดช่องทางใหม่ ๆ ให้กับธุรกิจ เพื่อรองรับสถานการณ์ปัจจุบัน
หลักสูตร NEC นี้เอง ที่เป็นจุดสว่างให้แก่กิจการเลี่ยมพระของเราอีกครั้ง...
ความรู้ มุมมอง แนวคิด ทักษะ และประสบการณ์ ที่ได้รับการถ่ายทอดจากผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาตัวจริง
เสียงจริง มิใช่แต่เพียงเป็นนักวิชาการที่สอนไปตามหน้ากระดาษเท่านั้น
ทำให้คุณน้องนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มาปรึกษากับเจ๊แมว ผู้เป็นมารดา...
เมื่อวิสัยทัศน์ของคนรุ่นใหม่ต่อยอดจากฐานประสบการณ์และเครือข่ายที่กว้างขวางของคนรุ่นบุกเบิก
จากบ้านรับจ้างเลี่ยมกรอบพระทองคำ จึงได้พัฒนา และปรับโฉมใหม่ เพื่อรองรับภาวะเศรษฐกิจและ
ความต้องการใหม่ ๆ ของกลุ่มลูกค้า
"ทองท่าพระ นพคุณ" จึงได้เปิดตัวขึ้น เมื่อ มิถุนายน พ.ศ.2552
โดยเราได้ผนวกจุดแข็งที่เรามี นั่นคือความเป็นผู้ผลิต ช่างทองฝีมือปราณีต ให้บริการรวดเร็ว
ร่วมกับ ความนิยมของกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนจากทองคำมาเป็นงานเงิน
กลายมาเป็นหน้าร้านและโรงงาน ผู้ให้บริการเกี่ยวกับงานกรอบพระครบวงจร ซึ่งใช้หลัก ถูก-เร็ว-ดี
ทำเลที่เราเลือก คือ ย่านพรานนก เนื่องจากเป็นแหล่งที่มีความต้องการ การเลี่ยมสูง และเป็นถิ่นที่เจ๊แมว
รู้สึกคุ้นเคย และ อุ่นใจ เนื่องจากมีผองเพื่อน ทั้งรุ่นพี่ รุ่นน้อง เป็นคนถิ่นพรานนกมากมาย
"ทองท่าพระ นพคุณ" แม้เป็นเจ้าใหม่ในพื้นที่พรานนก
แต่ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากลูกค้าเก่า และคนพื้นที่ที่นี่
เนื่องจากงานของเราผสมทองคำและเนื้อเงินเปอร์เซนต์สูง
มีกรอบสำเร็จให้เลือกมากมายหลายร้อยแบบ ทั้งเป็นงานแฮนด์เมด ทำชิ้นต่อชิ้น ราคากันเอง
ให้บริการรวดเร็ว บริการครบวงจร ทั้งงานทอง งานเงิน งานอัดกันน้ำพลาสติก งานเครื่องประดับ
งาน ตัด-ต่อ-เชื่อม-ซ่อม งานชุบทอง-เงิน-ทองคำขาว ฯลฯ
เรียกว่าหากมีความต้องการอะไรเกี่ยวกับกรอบพระ เครื่องประดับ เดินเข้ามาที่นี่ ไม่ผิดหวังแน่นอน
หากท่านได้มีโอกาสผ่านมาย่านพรานนกสักครั้ง ขอเชิญแวะเวียนเข้ามาชมได้นะคะ
ทั้งงานเลี่ยมสำเร็จหน้าร้าน และหากต้องการชมกระบวนการเลี่ยมกรอบพระเพื่อเป็นความรู้
เข้ามาที่นี่ก็สามารถชมได้ตลอด จ.-ส. ค่ะ เพราะเรายกโรงงานมาไว้ที่นี่แล้ว...
ทองท่าพระ นพคุณ ยินดีรับใช้และให้บริการทุกท่านค่ะ